หยุดเวลา ย้อนวัย..จากภายในต้นกำเนิดเซลล์
แม้ความชราจะถือเป็นเรื่องธรรมชาติ
แต่คงไม่มีใครอยากให้ความชรามาเยือนเร็วนัก เราจึงได้เห็นการค้นพบใหม่ๆ
จาการศึกษาวิจัยทั่วโลก
ถึงวิธีการที่จะพยายามต่อต้านความชราไว้ให้ได้นานที่สุดในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา
คำว่า แอนตี้ เอจจิ้ง(Anti-Aging) จึงกลายเป็นคำยอดฮิตในวงการเครื่องสำอางค์
ความงามและสุขภาพ นักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก
ต่างก็พากันศึกษาถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดความชรา และได้ค้นพบคำตอบมากมายเช่น
การมีอนุมูลอิสระ (Free Radical) เป็นสาเหตุ เป็นต้น
ล่าสุดได้มีการค้นพบความลัยครั้งสำคัญ
ในการคงความอ่อนเยาว์ให้ผิวที่อยู่ลึกลงไปในระดับเซลล์เรียกว่า เซิร์ททรี
(Sirt3)
Sirt3 เป็นยีนส์หนึ่งในเจ็ดของกล่ม Sirtuin ที่พบในไมโตคอนเดรีย
(Mitochondria) ซึ่งเปรียบเสมือนแหล่งพลังงานภายในเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย
รวมถึงเซลล์ผิวด้วย เซิร์ททรี เป็นยีนส์หลักในการทำหน้าที่
- ควบคุมการสร้างพลังงาน (ATP) ภายในเซลล์
- ควบคุมกระบวนการเมตาบอลิซั่ม (Metabolism) ของเซลล์
- กระตุ้นกระบวนการผลิตสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ
- ช่วยเสริมสร้างกลไกการฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลาย
- ช่วยยืดอายุเซลล์ผิวให้ยาวนานขึ้น
จากประโยชน์ต่าง ๆ ที่กล่าวมา จึงมีคนกล่าวไว้ว่า Sirt3 คือ ยีนส์แห่ง
ความเยาว์วัย ซึ่งยีนส์ชนิดนี้จะมีปริมาณลดลงเมื่อคนเราอายุมากขึ้น
และเมื่อต้องเผชิญกับความเครียด ตลอดจนมลภาวะภายนอก
ปัจจุบันจึงมีการคิดค้นและสกัดสารสำคัญจากโปรตีนถั่วเหลือง
ในรูปแบบของเปปไทด์ขึ้น เรียกว่า เซอร์ทูอิน (Sirtuin)
เปปไทด์ชนิดนี้จะตรงเข้าไปทำงานที่ไมโตคอนเดรียภายในเซลล์ผิว
โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของไมโตคอนเดรีย กระตุ้นให้เกิดการสร้าง เซิร์ททรี
(Sirt3) เพิ่มขึ้น ช่วยให้ผิวสามารถสร้างพลังงานได้ดี
จึงช่วยยืดอายุเซลล์ผิวให้คงความอ่อนเยาว์ได้นานขึ้น
กระตุ้นผิวให้สร้างสารต่อต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติเพิ่มขึ้นช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระประเภท
ROS (Reactive Oxygen Species)
ตัวการหลักในการทำให้ผิวเสื่อมโทรมและเกิดริ้วรอยแห่งวัย
ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื่น เรียบเนียนและกับชับขึ้น
เทคโนโลยีนี้ได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในเครื่องสำอางค์กลุ่มต่อต้านริ้วรอย
ทั้งประเภทซีรั่ม และครีมบำรุงผิว
ซึ่งเมื่อใช้เครื่องสำอางค์กลุ่มนี้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
จะสังเกตเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของผิว ทั้งในเรื่องความชุ่มชื้น
ความกระชับและความเรียบเนียนของผิว
นอกจากนั้น อีกเทคโนโลยีในการบำรุงผิวที่กำลังได้รับความนิยมก็คือ
การใช้ทองคำเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องสำอางค์ เช่น
เทคโนโลยีชั้นสูงที่นำเอาทองคำบริสุทธิ์ที่มีขนาดเล็กระดับนาโน
มาทำงานร่วมกับอะมิโนเปปไทด์
จนกลายเป็นสารประกอบที่มีประสิทธิภาพในการแทรกซึมเข้าถึงเซลล์ผิวได้อย่างตรงจุดเรียกว่า
นาโนโกลด์ เปปไทด์ (Nanogold Peptide) เข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type I
และ Type lll ที่มีบทบาทสำคัญต่อความอ่อนเยาว์ของผิว
ช่วยลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิวอย่างได้ผล
อีกหนึ่งสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ผิวดูหมองคล้ำ ขาดชีวิตชีวา
ก็คือสภาพผิวที่ขาดความสมดุลระหว่างน้ำและน้ำมันบนผิว ผิวขาดน้ำ (Dehydrated
skin) จะมีความแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื่น
เนื่องจากผิวขาดควมสามารถในการกักเก็บความชุ่มชื่นไว้ภายในได้
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของโซเดียม ไฮยาลูโรเนต (Sodium Hyalruonate)
รวมถึงสารสกัดจากธรรมชาตินานาชนิด เช่น สารสกัดจากดอกกุหลาย (Rose Water)
สารสกัดจากทับทิม และสารสกัดจากแตงกวา
จะช่วยสร้างปราการปกป้องความชุ่มชื่นผิวที่แข็งแรง
ผิวจึงสามารถล็อคความชุ่มชื่นไว้ภายในมากและยาวนานขึ้น ผิวจึงเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น
และดูสุขภาพดี
จะเห็นได้ว่าด้วยวิทยาการที่ก้าวล้ำ
ทำให้ความชรากลายเป็นเรื่องที่ไม่น่ากลัวอีกต่อไป การดูแลผิวก็ เช่นเดียวกัน
ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของผิวที่สุขภาพดีและอ่อนเยาว์ได้
เพียงแค่รู้จักเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาผิวที่เกิดขึ้น
แล้วการหยุดเวลาหรือย้อนวัยให้ผิวก็จะไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป…..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น