วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554

Anti-aging

หยุดเวลา ย้อนวัย..จากภายในต้นกำเนิดเซลล์
     แม้ความชราจะถือเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่คงไม่มีใครอยากให้ความชรามาเยือนเร็วนัก เราจึงได้เห็นการค้นพบใหม่ๆ จาการศึกษาวิจัยทั่วโลก ถึงวิธีการที่จะพยายามต่อต้านความชราไว้ให้ได้นานที่สุดในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา คำว่า แอนตี้ เอจจิ้ง(Anti-Aging) จึงกลายเป็นคำยอดฮิตในวงการเครื่องสำอางค์ ความงามและสุขภาพ นักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก ต่างก็พากันศึกษาถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดความชรา และได้ค้นพบคำตอบมากมายเช่น  การมีอนุมูลอิสระ (Free Radical)  เป็นสาเหตุ เป็นต้น
     ล่าสุดได้มีการค้นพบความลัยครั้งสำคัญ  ในการคงความอ่อนเยาว์ให้ผิวที่อยู่ลึกลงไปในระดับเซลล์เรียกว่า  เซิร์ททรี (Sirt3)
     Sirt3  เป็นยีนส์หนึ่งในเจ็ดของกล่ม Sirtuin ที่พบในไมโตคอนเดรีย (Mitochondria)  ซึ่งเปรียบเสมือนแหล่งพลังงานภายในเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย รวมถึงเซลล์ผิวด้วย  เซิร์ททรี เป็นยีนส์หลักในการทำหน้าที่
-  ควบคุมการสร้างพลังงาน (ATP) ภายในเซลล์
-  ควบคุมกระบวนการเมตาบอลิซั่ม (Metabolism) ของเซลล์
-  กระตุ้นกระบวนการผลิตสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ
-  ช่วยเสริมสร้างกลไกการฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลาย
-  ช่วยยืดอายุเซลล์ผิวให้ยาวนานขึ้น
     จากประโยชน์ต่าง ๆ ที่กล่าวมา  จึงมีคนกล่าวไว้ว่า Sirt3  คือ ยีนส์แห่ง ความเยาว์วัย  ซึ่งยีนส์ชนิดนี้จะมีปริมาณลดลงเมื่อคนเราอายุมากขึ้น  และเมื่อต้องเผชิญกับความเครียด  ตลอดจนมลภาวะภายนอก
     ปัจจุบันจึงมีการคิดค้นและสกัดสารสำคัญจากโปรตีนถั่วเหลือง  ในรูปแบบของเปปไทด์ขึ้น  เรียกว่า  เซอร์ทูอิน (Sirtuin)  เปปไทด์ชนิดนี้จะตรงเข้าไปทำงานที่ไมโตคอนเดรียภายในเซลล์ผิว  โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของไมโตคอนเดรีย  กระตุ้นให้เกิดการสร้าง  เซิร์ททรี (Sirt3)  เพิ่มขึ้น  ช่วยให้ผิวสามารถสร้างพลังงานได้ดี  จึงช่วยยืดอายุเซลล์ผิวให้คงความอ่อนเยาว์ได้นานขึ้น  กระตุ้นผิวให้สร้างสารต่อต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติเพิ่มขึ้นช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระประเภท ROS (Reactive Oxygen Species)  ตัวการหลักในการทำให้ผิวเสื่อมโทรมและเกิดริ้วรอยแห่งวัย  ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื่น  เรียบเนียนและกับชับขึ้น
     เทคโนโลยีนี้ได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในเครื่องสำอางค์กลุ่มต่อต้านริ้วรอย  ทั้งประเภทซีรั่ม  และครีมบำรุงผิว  ซึ่งเมื่อใช้เครื่องสำอางค์กลุ่มนี้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง  จะสังเกตเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของผิว  ทั้งในเรื่องความชุ่มชื้น  ความกระชับและความเรียบเนียนของผิว
     นอกจากนั้น  อีกเทคโนโลยีในการบำรุงผิวที่กำลังได้รับความนิยมก็คือ  การใช้ทองคำเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องสำอางค์  เช่น  เทคโนโลยีชั้นสูงที่นำเอาทองคำบริสุทธิ์ที่มีขนาดเล็กระดับนาโน  มาทำงานร่วมกับอะมิโนเปปไทด์  จนกลายเป็นสารประกอบที่มีประสิทธิภาพในการแทรกซึมเข้าถึงเซลล์ผิวได้อย่างตรงจุดเรียกว่า  นาโนโกลด์ เปปไทด์ (Nanogold Peptide)  เข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน  Type I และ Type lll  ที่มีบทบาทสำคัญต่อความอ่อนเยาว์ของผิว  ช่วยลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิวอย่างได้ผล
     อีกหนึ่งสาเหตุใหญ่ที่ทำให้ผิวดูหมองคล้ำ  ขาดชีวิตชีวา  ก็คือสภาพผิวที่ขาดความสมดุลระหว่างน้ำและน้ำมันบนผิว  ผิวขาดน้ำ (Dehydrated skin)  จะมีความแห้งกร้าน  ขาดความชุ่มชื่น  เนื่องจากผิวขาดควมสามารถในการกักเก็บความชุ่มชื่นไว้ภายในได้  การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของโซเดียม ไฮยาลูโรเนต (Sodium Hyalruonate)  รวมถึงสารสกัดจากธรรมชาตินานาชนิด  เช่น  สารสกัดจากดอกกุหลาย  (Rose Water)  สารสกัดจากทับทิม และสารสกัดจากแตงกวา  จะช่วยสร้างปราการปกป้องความชุ่มชื่นผิวที่แข็งแรง  ผิวจึงสามารถล็อคความชุ่มชื่นไว้ภายในมากและยาวนานขึ้น  ผิวจึงเนียนนุ่ม  ชุ่มชื่น  และดูสุขภาพดี 
     จะเห็นได้ว่าด้วยวิทยาการที่ก้าวล้ำ  ทำให้ความชรากลายเป็นเรื่องที่ไม่น่ากลัวอีกต่อไป  การดูแลผิวก็  เช่นเดียวกัน  ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของผิวที่สุขภาพดีและอ่อนเยาว์ได้  เพียงแค่รู้จักเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาผิวที่เกิดขึ้น  แล้วการหยุดเวลาหรือย้อนวัยให้ผิวก็จะไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป…..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น